top of page

How-To: เทคนิค "ต่อเสา" ในงานบ้าน | เทเสาสูงอย่างไรให้ได้คุณภาพ ไม่เป็นโพรง

  • รูปภาพนักเขียน: Kallaya Tanthawoo
    Kallaya Tanthawoo
  • 14 ก.ย.
  • ยาว 2 นาที

หลายคนอาจคุ้นเคยกับความคิดที่ว่าการเทคอนกรีตที่ดีคือการเทให้ต่อเนื่องในครั้งเดียวจบ เพื่อให้โครงสร้างไร้รอยต่อและแข็งแรงที่สุด แต่ในงานเทเสาสูงที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะในงานบ้านทั่วไป วิศวกรหน้างานกลับเลือกที่จะ "ต่อเสา" หรือ "แบ่งเท" วิธีการที่ดูเหมือนจะสร้างจุดอ่อนให้กับโครงสร้างนี้ คือสุดยอดเทคนิคในการควบคุมคุณภาพจริงหรือ?


บทความนี้จะมาแสดงเทคนิค และเปลี่ยนเรื่องที่หลายคนกังวลให้กลายเป็นคู่มือฉบับสมบูรณ์ ที่จะสอน "วิธีการต่อเสาเทเสาสูงให้ได้คุณภาพ ไม่เกิดโพรง" โดยใช้เทคนิคการต่อเสาอย่างถูกหลักวิศวกรรม จาก Case Study หน้างานจริงของเราครับ


ความท้าทายของโครงการนี้คือเสาที่มีหน้าตัดค่อนข้างเล็กเพียง 20x20 ซม. แต่มีความสูงถึง 4.30 เมตร การตัดสินใจเทคอนกรีตทั้งหมดในครั้งเดียว มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดปัญหา "คอนกรีตเป็นโพรง" (Honeycombing) บริเวณโคนเสา เนื่องจาก:

  1. หน้าตัดที่แคบและแออัด: ด้วยขนาดเสาที่เล็กและมีเหล็กเสริมอยู่ภายใน ทำให้มวลคอนกรีตไหลลงไปได้ยาก หินซึ่งเป็นส่วนผสมที่หนักที่สุดอาจไปกระจุกตัวและขวางทางเดินของน้ำปูนได้

  2. การแยกตัวของคอนกรีต (Segregation): เมื่อเทจากที่สูงเกินไป หินจะตกลงไปถึงด้านล่างเร็วกว่าส่วนผสมอื่น ทำให้เนื้อคอนกรีตไม่เป็นเนื้อเดียวกัน

  3. การจี้คอนกรีตที่ไม่มีประสิทธิภาพ: การใช้เครื่องจี้คอนกรีตเพื่อไล่ฟองอากาศในเสาที่สูงและแคบนั้นทำได้ยากมากที่จะมั่นใจได้ว่าแรงสั่นสะเทือนจะลงไปถึงโคนเสาได้อย่างทั่วถึง


    แบบแปลนโครงสร้างแสดงความสูงเสา 4.3 ม. เสามีขนาด20x20ซม.
    แบบแปลนโครงสร้างแสดงความสูงเสา 4.3 ม. เสามีขนาด20x20ซม.

ด้วยความเสี่ยงเหล่านี้ การเลือกที่จะสร้าง Construction Joint จึงไม่ใช่ข้อผิดพลาด แต่เป็น "เทคนิคการควบคุมคุณภาพ" ที่เราตั้งใจเลือกใช้


ภาพรวมโครงสร้างแบบหล่อและค้ำยันสำหรับเสาและคานคอนกรีต ที่เตรียมไว้สำหรับการเทคอนกรีตช่วงที่สองของเสา
"เตรียมพร้อมสู่ช่วงที่สอง: การเข้าแบบสำหรับ 'การต่อเสา' ที่เหลือ" ภาพรวมของการเข้าแบบและค้ำยันทั้งหมด เพื่อเตรียมเทคอนกรีตเสาในส่วนที่เหลือ (จาก 3 เมตรไปจนถึง 4.3 เมตร) พร้อมกับคานรัดหัวเสา การติดตั้งแบบหล่อในขั้นตอนนี้จะต้องพิถีพิถัน เพื่อให้ได้เสาที่ตรงแนวและลดความเสี่ยงการรั่วซึมของน้ำปูนครับ


เสาคอนกรีตที่เทคอนกรีตช่วงแรกที่ความสูง 3 เมตรแล้ว มีเหล็กเสริมโผล่พ้นขึ้นมาเพื่อทำ Construction Joint ในการเทคอนกรีตช่วงต่อไป ใช้เทคนิคเลื่อนแบบให้สูงขึ้น
"นี่คือจุดเริ่มต้นของ 'การต่อเสา' (Construction Joint) ที่วางแผนไว้!" จาก Case Study ของเรา เสาต้นนี้ถูกเทคอนกรีตช่วงแรกที่ความสูงประมาณ 3 เมตร จะเห็นว่า เหล็กเสริมแกนเสายังคงวิ่งต่อเนื่องขึ้นมา ซึ่งนี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้โครงสร้างแข็งแรง การหยุดเทตรงนี้คือการ "วางแผน" เพื่อให้เราสามารถจี้คอนกรีตช่วงล่างได้แน่นเต็มที่ ป้องกันปัญหาโพรงที่โคนเสาครับ


คนงานกำลังทำงานบนแบบหล่อคานคอนกรีต โดยมีเสาคอนกรีตช่วงแรกอยู่ด้านล่าง เป็นภาพการเตรียมงานก่อนการเทคอนกรีตส่วนที่สอง
"งานละเอียดที่รอยต่อ: ก่อนเท ต้องมีการเตรียมผิว!" การเทคอนกรีตช่วงที่สองของเสาพร้อมคานรัดหัวเสา กำลังจะเกิดขึ้นตรงจุดนี้ครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดแต่เราอาจไม่เห็นในภาพคือการ "เตรียมผิวหน้ารอยต่อ" (Construction Joint) ของเสาเดิม: การสกัดผิวให้หยาบ, ทำความสะอาด, และบ่มน้ำ เหล่านี้คือขั้นตอนสำคัญที่ทำให้รอยต่อแข็งแรง ไม่ใช่แค่การเททับลงไปเฉยๆ

Construction Joint หรือ "รอยต่อขณะก่อสร้าง" คือ รอยต่อที่ถูก "วางแผน" และ "ตั้งใจ" สร้างขึ้น เพื่อแบ่งการเทคอนกรีตออกเป็นส่วนๆ ครับ โดยวิศวกรจะต้องวางแผนว่าจะ "หยุดเทคอนกรีต" ที่ตำแหน่งไหน ที่จะส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงโดยรวมของโครงสร้างน้อยที่สุด


ข้อแตกต่างที่สำคัญที่สุด: Construction Joint vs. Cold Joint


นี่คือประเด็นที่ทำให้คนสับสนและกังวลมากที่สุดครับ รอยต่อทั้งสองชนิดนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

คุณสมบัติ (Feature)

Construction Joint (รอยต่อที่ดี ✅)

Cold Joint (รอยต่อที่น่ากลัว ❌)

การวางแผน

วางแผนล่วงหน้า โดยวิศวกร

เป็น อุบัติเหตุ ไม่ได้วางแผน

การเตรียมผิว

มีการเตรียมผิวอย่างดี (สกัด,ทำความสะอาด)

ไม่มีการเตรียมผิว

ผลกระทบ

แข็งแรงตามที่ออกแบบไว้

เป็น จุดอ่อนร้ายแรง ของโครงสร้าง

สาเหตุ

การแบ่งงานตามแผน

รถปูนช้า, เครื่องจักรเสีย, ฝนตก


หลังจากคอนกรีตได้อายุกำหนดและทำการถอดแบบแล้ว เรามาดูผลลัพธ์และวิธีการตรวจสอบคุณภาพกันครับ

โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กของอาคารที่สร้างเสร็จแล้ว แสดงเสาและคานคอนกรีตที่เทด้วยเทคนิค Construction Joint พร้อมสำหรับการติดตั้งโครงหลังคา
"ผลลัพธ์ของ 'การต่อเสา' ที่ได้คุณภาพ: แข็งแรงและไร้โพรง!" และนี่คือโครงสร้างเสา-คานที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ หลังจากที่เราใช้เทคนิค "การต่อเสา" (Construction Joint) จะเห็นว่าเสาเรียบเนียนตลอดต้น ไม่มีโพรงขนาดใหญ่ และแข็งแรงพร้อมสำหรับการติดตั้งโครงหลังคา นี่คือตัวอย่างที่พิสูจน์ว่า การวางแผนและทำรอยต่ออย่างถูกวิธี ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการเสี่ยงเทรวดเดียวแล้วเป็นโพรงครับ
  • ภาพรวม: ผิวเสาโดยรวมมีความเรียบเนียน จะสังเกตเห็นรอยต่อที่ระดับความสูง 3 เมตรได้อย่างชัดเจน ส่วนของเสาช่วงบนที่เทพร้อมคานรัดหัวเสาก็เป็นเนื้อเดียวกันอย่างสมบูรณ์

มุมของรอยต่อเสาคอนกรีตที่แข็งแรง แสดงการเชื่อมต่อของคอนกรีตที่สมบูรณ์ ไม่มีโพรงหรือรอยร้าว
แม้จะเป็นมุมที่ทำงานได้ยาก แต่จะเห็นว่ารอยต่อยังคงเชื่อมกันสนิทดี ไม่พบโพรงขนาดใหญ่หรือรอยแตกร้าว นี่คือผลลัพธ์ของการควบคุมคุณภาพและการจี้คอนกรีตที่ดีทั้งในช่วงแรกและช่วงที่สองครับ
ภาพขยายของรอยต่อเสาคอนกรีต หรือ Construction Joint ที่ดี แสดงให้เห็นว่าเนื้อคอนกรีตเชื่อมต่อกันสนิท
เมื่อซูมดูใกล้ๆ จะเห็นเส้นรอยต่อบางๆ แต่สิ่งสำคัญคือ เนื้อคอนกรีตเก่าและใหม่นั้นเชื่อมต่อกันสนิท ไม่มีรอยแยกร้าว ซึ่งบ่งชี้ว่าการเตรียมผิวทำได้ดีและคอนกรีตประสานกันสมบูรณ์ นี่คือลักษณะของรอยต่อที่ "ผ่าน" การตรวจสอบครับ
  • Checklist การตรวจสอบรอยต่อ:

    1. การเชื่อมต่อของผิว (Bonding): ผิวคอนกรีตเก่าและใหม่บริเวณรอยต่อมีการเชื่อมต่อกันดี ไม่มีลักษณะของการแยกชั้นออกจากกันอย่างชัดเจน

    2. รอยแตกร้าว (Cracks): ไม่ปรากฏรอยแตกร้าวใดๆ ที่บริเวณรอยต่อ ซึ่งบ่งชี้ว่าคอนกรีตประสานตัวกันได้ดี

    3. โพรงหรือตามด (Honeycombing): ไม่พบโพรงขนาดใหญ่ แต่มีรอยตามดเล็กน้อยเกิดขึ้น

จากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบรอยตามดขนาดเล็กที่มีความลึกประมาณ 2-5 มม. ซึ่งเกิดขึ้นจากสาเหตุที่คาดการณ์ได้คือ รอยต่อของไม้แบบเสาในบางจุดอาจไม่สนิท 100% ทำให้ "น้ำปูน" (Cement Paste) ส่วนที่ละเอียดที่สุดรั่วไหลออกไปบ้าง เหลือไว้เพียงทรายและหินเล็กๆ

รอยต่อเสาคอนกรีต หรือ Construction Joint ที่ดี ซึ่งแสดงการเชื่อมต่อที่สนิทของคอนกรีต มีเพียงรอยตามดเล็กน้อยที่ผิว
จากภาพจะเห็นว่าเนื้อคอนกรีตโดยรวมประสานกันเป็นเนื้อเดียว แม้จะมีรอยตามดเล็กน้อยที่ผิว (ขนาด 2-5 มม.) ซึ่งเกิดจากน้ำปูนรั่วซึมที่แบบเสา แต่รอยนี้อยู่แค่ที่ผิว ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของโครงสร้างหลักภายใน และสามารถซ่อมแซมเพื่อความสวยงามได้ครับ
รอยต่อเสาคอนกรีต หรือ Construction Joint ที่ดี ซึ่งแสดงการเชื่อมต่อที่สนิทของคอนกรีต มีเพียงรอยตามด2-5 มม.เล็กน้อยที่ผิว
จากภาพจะเห็นว่าเนื้อคอนกรีตโดยรวมประสานกันเป็นเนื้อเดียว แม้จะมีรอยตามดเล็กน้อยที่ผิว (ขนาด 2-5 มม.) ซึ่งเกิดจากน้ำปูนรั่วซึมที่แบบเสา แต่รอยนี้อยู่แค่ที่ผิว ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของโครงสร้างหลักภายใน และสามารถซ่อมแซมเพื่อความสวยงามได้ครับ

คำถามสำคัญ: รอยตามด 2-5 มม. นี้ กระทบต่อความแข็งแรงของโครงสร้างหรือไม่?

คำตอบคือ ไม่กระทบต่อกำลังรับน้ำหนักหลักของโครงสร้างครับ เหตุผลเพราะ:

  • ความลึกน้อยกว่าระยะหุ้ม (Covering): รอยตามดลึกเพียง 2-5 มม. ซึ่งยังอยู่แค่บริเวณผิวคอนกรีต ยังไม่ลึกถึงเหล็กเสริมที่อยู่ข้างใน ซึ่งโดยทั่วไปจะมี "ระยะหุ้มคอนกรีต" ประมาณ 25-30 มม. ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันเหล็กเสริมอยู่แล้ว

  • โครงสร้างหลักยังสมบูรณ์: กำลังรับน้ำหนักหลักของเสามาจากแกนคอนกรีตภายในและเหล็กเสริม ซึ่งยังคงแข็งแรงและไม่ได้รับผลกระทบ

จาก Case Study นี้พิสูจน์ให้เห็นว่า การหยุดเทคอนกรีตเพื่อสร้าง Construction Joint เป็นเรื่องที่สามารถทำได้และปลอดภัย หากมีการวางแผนที่ดี ซึ่งประกอบด้วย:

  • การเตรียมผิวหน้าคอนกรีตเก่า ให้หยาบและสะอาด

  • การวางแผนตำแหน่งรอยต่อ ในจุดที่เหมาะสม

  • ความต่อเนื่องของเหล็กเสริม ที่วิ่งผ่านรอยต่อ

การเลือกใช้วิธีนี้ ดีกว่าการเสี่ยงเทคอนกรีตครั้งเดียวแล้วเกิดเป็นโพรงขนาดใหญ่ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อความแข็งแรงของโครงสร้างมากกว่าอย่างเทียบไม่ได้ เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในงานคอนกรีต คือการเน้นที่ "คุณภาพของเนื้อคอนกรีต" และทำงานให้ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม การมีรอยต่อที่ถูกควบคุมคุณภาพจึงไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่เป็นเครื่องยืนยันถึงความใส่ใจในทุกขั้นตอนครับ


วีดีโอตรวจรอยต่อเสา


วีดีโอขั้นตอนการทำงาน



ความคิดเห็น


bottom of page